
รถยุโรปหรือ รถญี่ปุ่น เป็นหัวข้อที่ผู้ที่คิดจะซื้อรถมักพูดถึงอยู่เสมอ เนื่องจากรถทั้งสองสัญชาตินี้มีข้อดีข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน วันนี้ CARSOME ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์จึงจะมาพูดถึงและเปรียบเทียบรถยุโรปและรถยนต์ญี่ปุ่นให้เห็นกันแบบจะๆ หมัดต่อหมัดกันไปเลย จะได้ตัดสินใจได้ถูกว่ารถสัญชาติใดที่เหมาะกับคุณกันแน่
ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน

รถยุโรปกับรถญี่ปุ่น |
---|
รถญี่ปุ่น

แม้ว่าหากพูดถึงรถยนต์ญี่ปุ่นโดยทั่วไปแล้ว ความหรูหราต่างๆ อาจไม่สามารถเทียบเท่ากับรถยุโรปได้ แต่รถยนต์ญี่ปุ่นก็มีข้อดีอย่างอื่นมากมายทำให้ใครหลายคนติดใจใช้แต่รถยนต์ญี่ปุ่นไม่ยอมเปลี่ยนใจไปใช้รถสัญชาติอื่นเลย มาดูกันดีกว่าว่าหลักๆ แล้วรถยนต์ญี่ปุ่นมีข้อดีและมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
รถญี่ปุ่น มีจุดเด่นอะไรบ้าง
1. ราคา รถญี่ปุ่น ประหยัดคุ้มค่า
รถยนต์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีราคาที่ประหยัดและมีความคุ้มค่ามากกว่าเนื่องจากมีโรงงานผลิตในไทย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษาหรือการจัดซื้ออะไหล่ก็จัดหาได้ง่ายและมีราคาที่ต่ำกว่ารถยุโรป
2. รถญี่ปุ่น มือสอง ขายต่อราคาดี
รถยนต์ญี่ปุ่นยังได้รับความนิยมมากในไทย สามารถขายต่อมือสองได้ในราคาดี และขายออกต่อได้ง่ายอย่างแน่นอน เรียกได้ว่า การซื้อรถยนต์ญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับการซื้อรถยุโรปแล้วนั้น มีความคุ้มค่าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
3. ความประหยัดน้ำมันของ รถญี่ปุ่น
รถยนต์ญี่ปุ่นโดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมัน เพราะมีหลายรุ่นที่เป็น ECO Car มากมาย ในขณะเดียวกันก็มีรถไฮบริดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เรียกได้ว่า รถยนต์ญี่ปุ่นมีรถหลายประเภทให้ผู้ใช้เลือกซื้อตามความต้องการเลย
4. ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ได้หลากหลาย
รูปลักษณ์ของรถยนต์ญี่ปุ่นจะมีการดีไซน์ที่หลากหลายทั้งรถยนต์ 4 ประตู รถกระบะญี่ปุ่น หรือรถยนต์ 7 ที่นั่งรถยนต์ ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่รถยนต์สำหรับ First Jobber เริ่มทำงาน, รถสำหรับผู้หญิงขับในเมือง รวมไปถึงรถสำหรับครอบครัว อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติดังกล่าวทำให้ภาพจำของรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอยู่ที่ความประหยัดคุ้มค่าเป็นหลัก จึงสู้ความหรูหราของยี่ห้อรถหรูยุโรปไม่ได้ โดยเฉพาะ รถหรูยุโรป อย่าง Mercedes-Benz, BMW, Porsche หรือ Volvo ที่กลายเป็นภาพจำของรถหรูราคาแพงที่หลายๆ คนอยากครอบครองไปแล้ว
5. อะไหล่ รถญี่ปุ่น ไม่ทนทานนัก
รถยนต์ญี่ปุ่นทั่วๆ ไปยังมีการใช้อะไหล่และวัสดุที่อาจไม่ทนทานเท่ารถยุโรปเท่าใดนัก นอกจากนั้น ช่วงล่างหรือความแรงของเครื่องยนต์ก็อาจจะยังสู้ไม่ได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและฟังก์ชั่นเพิ่มความสะดวกสบายก็ยังอาจจะเป็นรองรถยุโรปอยู่อีกด้วย
รถญี่ปุ่น มียี่ห้ออะไรบ้าง
ตัวอย่างรถสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาดรถประเทศไทย
1. Honda

ฮอนด้า (Honda) เป็นรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับชั้นนำระดับโลกและในประเทศไทย โดยเป็นแบรนด์ที่มียอดขายอันดับต้นๆ ติดต่อกันมายาวนาน โดยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ จึงทำให้เป็นรถยนต์ยี่ห้อแรกๆ ที่เหมาะกับมือใหม่หัดขับ หรือกลุ่ม First Jobber วัยเริ่มต้นทำงาน เนื่องจากมาพร้อมความคุ้มค่าในราคาเบาสบาย โดยรุ่นรถยนต์ฮอนด้ายอดนิยม -ขายต่อมือสองได้ราคาดี ได้แก่ Honda ACCORD มือสอง, Honda CITY มือสอง, Honda CIVIC มือสอง, Honda Jazz มือสองและ Honda CR-V มือสอง เป็นต้น
สนใจ Honda มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME
2. Toyota

Toyota (โตโยต้า) เป็นอีกหนึ่งรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่โดดเด่นในตลาดรถบ้านเรา เนื่องจากมีราคาถูก สามารถขายต่อได้ง่าย นอกจากนั้น ยังมีศูนย์บริการที่ครอบคลุม และอะไหล่ก็สามารถหาซื้อได้ง่ายในราคาไม่แพง นอกจากนั้น ยังมีรุ่นรถให้เลือกหลากหลายทั้งแบบรถเก๋งสุดประหยัดขับในเมืองอย่าง Toyota YARIS มือสอง หรือจะเป็นรถสายลุยอย่างรถกระบะอย่าง Toyota HILUX มือสอง รวมถึงรถสปอร์ตสุดเท่อย่าง Toyota CAMRY มือสอง และรถครอบครัวอย่าง Toyota C-HR มือสอง ด้วย
สนใจ Toyota มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME
3. Mitsubishi

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เป็นบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นระดับโลก โดยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2413 และได้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากมาย โดยประเทศไทยก็เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ ณ โรงงานผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งรถมิตซูบิชิมือสองก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ใครหลายคนให้ความสนใจค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นรถสไตล์ SUV อย่าง Mitsubishi PAJERO SPORT มือสอง หรือกระบะพันธุ์แกร่งอย่าง Mitsubishi TRITON มือสอง รวมถึงรถอีโค่คาร์สุดประหยัดอย่าง Mitsubishi MIRAGE มือสอง ด้วย
สนใจ Mitsubishi มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

รถยุโรป

รถยุโรปเป็นเหมือนรถในฝันของใครหลายๆ คน เพราะรถแบรนด์หรูหราระดับโลกก็มักจะเป็นรถยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz, BMW, Porsche หรือ Lamborghini และแบรนด์ดังๆ อื่นๆ อีก โดยนอกจากความหรูหราดูดีและการเป็นรถในฝันของใครหลายๆ คนแล้ว รถยุโรปยังมีจุดเด่นอีกมากมาย ดังนี้
รถยุโรปมีจุดเด่นอะไรบ้าง
1. ดูหรูหราโดดเด่น
รูปลักษณ์ที่โก้หรูสวยงามของรถยุโรป นอกจากจะตอบโจทย์ความชอบส่วนตัวแล้ว รถยุโรปยังมีดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สะดุดตา จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยุโรปเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยประดับฐานะของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วยยกระดับฐานะทางสังคม และยังเป็นหนึ่งในของสะสมของใครหลายคนอีกด้วย
2. อะไหล่และเครื่องยนต์ที่ดีกว่า
เครื่องยนต์ของรถยุโรปโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะ กำลังแรงม้าเหนือกว่า แถมมีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าที่พัฒนาต่อยอดมาจากรถแข่งในสนาม จึงเหมาะกับสายซิ่งที่ต้องการขับแบบแรงๆ และเร็วๆ แน่นอนว่า เรื่องนี้รถยุโรปตอบโจทย์มากกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นจริงๆ นอกจากนั้น อะไหล่ของรถยุโรปมักจะมีความแข็งแรงคงทนมากกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นทั่วๆ ไป และช่วงล่างจะมีความแข็งแรงแน่นหนึบขับสนุกอีกด้วย
3. สร้างมลพิษน้อย
ส่วนใหญ่รถยุโรปสร้างมลพิษน้อยกว่ารถยนต์ญี่ปุ่น (แต่ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นรถที่เลือก) รถยุโรปให้ความสำคัญกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาก และยังโดดเด่นในเรื่องการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพที่ดีสุดๆ อีกด้วย
4. มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย
คุณภาพของรถยุโรปไม่ได้มีแค่เรื่องดีไซน์ที่โดดเด่นหรือเครื่องยนต์ที่แรงกว่า แต่ครอบคลุมไปถึงออปชั่นต่างๆ ที่มากับตัวรถ โดยเฉพาะออปชั่นเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและฟังก์ชั่นเพิ่มความสะดวกสบายต่างๆ แถมยังมีอายุการใช้งานที่นานกว่าด้วย
5. ราคาแพงกว่า
ข้อเสียที่ชัดเจนอย่างมากของรถยุโรปก็คือ ราคาที่สูงกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นในฟังก์ชั่นของรถที่เท่ากัน ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นดีไซน์การออกแบบ ความหรูหราทั้งภายนอกและภายใน เทคโนโลยีล้ำสมัยที่เสริมเข้ามาให้รถ เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือ ราคารถยุโรปในรุ่นเริ่มต้นส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับราคารถยนต์ญี่ปุ่นรุ่นทอปเลยทีเดียว แถมยังไม่ใช่แค่ค่าตัวรถเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่มีราคาสูง แต่งบประมาณค่าบำรุงรักษารวมถึงการจัดหาอะไหล่ต่างๆ ก็มีราคาสูงกว่าไม่แพ้กันเลยด้วย
รถยุโรปมียี่ห้ออะไรบ้าง
ตัวอย่างรถสัญชาติยุโรปที่ได้รับความนิยมในตลาดรถประเทศไทย
1. BMW

สำหรับใครที่ชอบรถยนต์สไตล์พรีเมียมที่มาพร้อมกับเรื่องเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว รถ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ก็นับว่า ยี่ห้อรถหรูยุโรป ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะรถสัญชาติเยอรมันคันนี้ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์และนวัตกรรมยานยนต์อันโดดเด่น สะดุดตา ตกแต่งหรูหราทั้งนอกห้องโดยสารและภายนอก จึงเป็นที่นิยมของคนที่ชอบเล่นรถยุโรป ชอบความเงียบในห้องโดยสาร และขับได้นิ่ม โดยรุ่นมือสองที่ได้รับความนิยมก็มีทั้ง BMW X1 มือสอง รถ SUV ยุโรปคันงาม, BMW Serie 5 มือสอง และ BMW Serie 3 มือสอง ด้วย
สนใจ BMW มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME
2. Mercedes-Benz

Mercedes-Benz (เมอเซเดส-เบนซ์) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์หรูจากเยอรมันที่มีอายุมากกว่า 100 ปี และเป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายที่ผู้ชายหลายคนอยากมีไว้ในครอบครองสักคัน โดยเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบรถ เทคโนโลยีที่ใช้ รวมไปถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์และความปลอดภัย ไปจนถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นผู้นำในการนำนวัตกรรมหรือระบบต่างๆ ที่อยู่ในรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบันมาใช้เป็นเจ้าแรก อย่างการนำเทคโนโลยี Airbag หรือ Intelligent Drive เพื่อลดอุบัติเหตุจากการขับขี่ เป็นต้น
3. Porsche

Porsche (พอร์เชอ) ยี่ห้อรถยุโรปสัญชาติเยอรมันที่สายสปอร์ตคลั่งไคล้ ด้วยภาพลักษณ์ความหรูหราและทันสมัยโดนใจกลุ่มวัยหนุ่มสาวที่มีกำลังทรัพย์ เนื่องจากขึ้นชื่อในเรื่องความแรงของสมรรถนะ จนเป็นรถที่ขับเคลื่อนได้เร็วมากที่สุดในระดับทอปของโลก ซึ่งนอกจากรุ่นรถสปอร์ตในตำนานอย่าง Porsche 911 ที่เป็นความใฝ่ฝันของสายซิ่งหลายคน Porsche ก็ได้ผลิตรุ่นรถอเนกประสงค์อย่าง Porsche Cayenne และรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะเยี่ยมอย่าง Porsche Taycan อีกด้วย
ความแตกต่างระหว่างรถยุโรปกับ รถญี่ปุ่น
ความแตกต่าง | รถญี่ปุ่น | รถยุโรป |
---|---|---|
ดีไซน์ | เน้นความคุ้มค่า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย | เน้นความหรูหรา เสริมภาพลักษณ์ผู้ขับขี่ |
สมรรถนะเครื่องยนต์ | น้อยกว่ารถยุโรป | แรงกว่ารถญี่ปุ่น |
ความทนทาน | น้อยกว่ารถยุโรป | ทนทานกว่ารถญี่ปุ่น |
เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก | เทคโนโลยีสูงเฉพาะในรุ่นตัวทอป | เทคโนโลยีสูงตั้งแต่ในรุ่นเริ่มต้น |
รักษาสิ่งแวดล้อม | เน้นการประหยัดพลังงาน | เน้นการลดมลพิษที่ปล่อยออกมา |
ราคารถ | คุ้มค่าเข้าถึงง่าย | สูง เข้าถึงยาก |
ราคาอะไหล่และการซ่อมบำรุง | ไม่สูงมากนัก | ค่อนข้างสูงเนื่องจากอะไหล่ราคาสูง |
ขายต่อมือสอง | ราคาคงที่ ขายต่อง่าย | ขายต่อได้ยากเนื่องจากราคามือหนึ่งก็ค่อนข้างสูง |
จะเห็นได้ว่าทั้งรถยุโรปและ รถญี่ปุ่น ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งหากใครเป็นคนที่ชอบความหรูหราทันสมัย หรือให้ความสำคัญเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งพร้อมจ่ายในราคาที่สูง รถยุโรปก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าเน้นให้ความสำคัญเรื่องความคุ้มค่า ราคาถูก ประหยัดค่าบำรุงรักษา หรืออยากได้รถที่ขายต่อได้ราคาดี รถญี่ปุ่นก็อาจจะตอบโจทย์มากที่สุด อยู่ที่ว่าใครจะเหมาะกับรถสไตล์ไหนมากกว่ากัน ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกซื้อรถสักคันก็ควรวางแผนและศึกษารถที่ต้องการก่อน
ที่สำคัญ สำหรับใครที่อยากซื้อรถมือสองก็ควรหาแหล่งจำหน่ายที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน อย่าง CARSOME แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซื้อ-ขายรถยนต์มือสองครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มาพร้อมการรับประกันนานสูงสุด 2 ปีเต็ม และการรับประกันนานสูงสุด 2 ปีเต็ม ในราคาโปร่งใส คุ้มค่า นอกจากนั้น รถทุกคันที่ CARSOME รับประกันคุณภาพจะผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุด พร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะรถญี่ปุ่นมือสองหรือรถยุโรปมือสอง ก็มีแต่รถคุณภาพเนี๊ยบโดนใจ ไม่มีผิดหวังแน่นอน
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!

อ่านบทความต่อ: CROSSOVER รถ SUV MPV PPV คือ อะไร? หรือ ฤกษ์ดี วันดีออกรถเดือนพฤษภาคม 2566 ตามวันเกิด