ประเภทยางรถยนต์ สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์หลาย ๆ คนนอกจากจะต้องทำความรู้จักและความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเครื่องยนต์และรถยนต์แล้ว การทำความเข้าใจประเภทยางรถยนต์แต่ละประเภทก็สำคัญด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะกับประเภทการใช้งานย่อมส่งผลต่อการขับขี่และประสิทธิภาพในการขับรถด้วย ในวันนี้ทาง CARSOME จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเรื่องของยางรถยนต์แต่ละประเภทกันให้มากขึ้นว่ามีอะไรบ้าง และยางแบบไหนเหมาะกับใคร ซึ่งไปดูกันว่าจะมียางรถยนต์แบบไหนบ้าง
ซื้อรถยนต์มือสองกับ Carsome.co.th การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกัน 1 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 5 วัน
นึกถึงรถยนต์มือสองต้อง Carsome.co.th
สารบัญ
ประเภทยางรถยนต์ |
---|
หน้าที่ของยางรถยนต์
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับยางแต่ละประเภทนั้น เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่ของรถยนต์กันดีกว่าว่ามีหน้าที่สำคัญอย่างไรค่ะ
-
รับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุก
สำหรับรถยนต์ 1 คัน จะมีน้ำหนักประมาณ 1.6 ตัน หรือเทียบเท่ากับคน 32 คน ซึ่งความดันลมในยางจะเป็นตัวช่วยในการรับน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดเอาไว้ ทำให้เวลาที่ต้องเติมลมยางอาจจะต้องมีการคำนวณปริมาณความดันลมยางให้เหมาะสม ซึ่งรถแต่ละรุ่นจะมีค่าที่แตกต่างกันอีกด้วย
-
ช่วยลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนจากพื้นถนน
การขับรถบนเส้นทางขรุขระทุกครั้ง จะมีลมในยางที่ช่วยทำหน้าที่เหมือนเป็นเหมือนสปริงลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนจากพื้นถนนในขณะขับขี่ ทำให้ขับรถได้นุ่ม ลดการสั่นไหว แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเภทของยางรถยนต์ของรถแต่ละรุ่นด้วยเช่นกันค่ะ
-
ช่วยในการเปลี่ยนทิศทางการขับขี่
ยางรถยนต์นอกจากจะมีหน้าที่ช่วยยึดเกาะถนนในการขับขี่แล้ว การหมุนพวงมาลัยแต่ครั้งจะส่งผลให้ยางล้อหน้าหมุน และเมื่อล้อหน้าเกิดการหมุนจึงทำให้รถสามารถมุ่งไปในทิศทางที่ต้องการได้
-
เป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนและหยุดรถ
นอกเหนือจากหน้าที่อื่น ๆ ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยางรถยนต์ยังเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดพลังการขับเคลื่อน และการหยุดรถลงสู่พื้นผิวถนน ดังนั้นประโยชน์ของยางรถยนต์ยังช่วยทำให้รถสามารถเคลื่อนตัวหรือหยุดรถได้ ซึ่งประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนหรือหยุดรถยนต์นั้นก็ขึ้นอยู่กับยางแต่ละประเภทด้วยเช่นกัน ซึ่งจำเป็นมากที่ผู้ขับขี่จะต้องเลือกใช้ยางให้ถูกประเภทด้วย
นึกถึงรถยนต์มือสองต้อง Carsome.co.th
ประเภทของยางรถยนต์
ยางรถยนต์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้นจะมีการแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วยังเป็นประเภทที่นิยมใช้ในบ้านเราอีกด้วย ซึ่งได้แก่ ยางประเภท Highway Terrain, All Terrain และ Mud Terrain โดยยางเหล่านี้ยังมีลักษณะของดอกยางที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ขับขี่จะต้องดูด้วยว่ามีสไตล์การขับขี่แบบไหน ถึงจะสามารถเลือกใช้ยางรถได้อย่างเหมาะสม
1. HT – Highway Terrain
คุณสมบัติ 90% Road & 10% Off-Road
Highway Terrain หรือมีอักษรย่อบนยางว่า HT เป็นยางรถยนต์ประเภทที่นิยมใช้มากที่สุด และยังเป็นยางมาตรฐานสำหรับรถยนต์ใหม่อีกด้วย โดยยางรถยนต์ประเภทนี้ จะเน้นใช้งานบนถนนทั่วไป สามรถช่วยในเรื่องความเร็วได้ ดอกยางของยางรถยนต์แบบนี้จะมีดอกขนาดเล็ก, เรียบ และละเอียด เน้นให้ตัวดอกยางสัมผัสกับพื้นถนนให้ได้มากที่สุด มีโครงสร้างของยางไม่ซับซ้อน ตัวยางนุ่มกว่าแบบอื่น เวลาใช้งานจึงมีความนุ่ม เงียบ ใช้ความเร็วสูงได้ ใช้กำลังเครื่องในการหมุนล้อน้อยกว่าประเภทอื่น ทำให้ใช้เชื้อเพลิงน้อยลงตามไปด้วย แต่ยางประเภทนี้ไม่สามารถรองรับน้ำหนักในการบรรทุกได้มากนัก จึงนิยมใช้ในรถยนต์ทั่วไป หรือรถกระบะที่ใช้งานแบบอเนกประสงค์ และเหมาะกับรถที่ใช้งานบนถนนเรียบทั่วไป แต่ยางประเภทนี้ก็ยังสามารถใช้บนเส้นทางขรุขระได้เล็กน้อย หากใครที่มีรถยนต์ที่ใช้ขับรถไปมาเพื่อการทำงานในแต่ละวันและเป็นรถครอบครัวที่ไม่ได้ใช้งานหนักก็สามารถเลือกใช้ยางรถยนต์ประเภทนี้ได้ค่ะ
ลักษณะของยางรถยนต์ ดอกยางมีขนาดเล็ก ลายดอกยางละเอียด มีร่องยางเล็กโดยรอบ มีคุณสมบัติการรีดน้ำได้ดี น้ำหนักเบา เกาะถนน มีโครงสร้างของยางเน้นความนุ่ม เงียบ ใช้งานสำหรับ รถกระบะที่ไม่ได้เน้นการบรรทุก ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนทางเรียบเป็นหลัก ทางหลวงทั่วไป หรืออาจจะเป็นเส้นทางขรุขระเล็กน้อย ไม่เน้นลุย
2. AT – All Terrain
คุณสมบัติ 60% Road & 40% Off-Road
ยางแบบ All Terrain หรือมีอักษรย่อบนยางว่า AT เป็นยางที่นิยมใช้บนรถกระบะแบบ 4×4 โดยตัวดอกยางจะเป็นดอกที่มีขนาดใหญ่และหนาขึ้นกว่าแบบ HT เล็กน้อย ตัวร่องยางจะมีความห่างจากกันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เน้นให้ดอกยางมีการสัมผัสกับพื้นถนนได้มาก ซึ่งยางประเภทนี้ยังสามารถใช้งานได้ดีทั้งบนถนนทั่วไปและสามารถใช้ลุยได้ระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ถนนหลุมบ่อ, บ่อเลน, ทางดินธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งถ้าถามว่าใครที่เหมาะกับการใช้ยางประเภทนี้ ก็น่าจะเหมาะกับคนที่มีการขับรถในชีวิตประจำวันแบบ ทั่วไปบ้างหรือในบางวันอาจจะออกไปลุยบ้าง โดยเฉพาะเส้นทางนอกเมือง ต่างจังหวัดที่มีถนนขรุขระ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องขับรถลุยทุกวัน ซึ่งยาง AT นั้นเมื่อใช้บนถนนทางเรียบจะมีเสียงดังมากกว่าแบบ HT อีกทั้งยางประเภทนี้ยังมีน้ำหนักมากกว่าจึงทำให้มีการใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจุดเด่นของยางประเภทนี้ก็คือ ดอกยางที่สามารถตะกุยตัวดินได้มากกว่าและสะบัดดินออกจากตัวยางได้ดีกว่าแบบ HT โดยยางแบบนี้มีติดมาเป็นมาตรฐานในรถบางรุ่นเท่านั้น อย่างเช่นใน Ford Ranger Raptor เป็นต้น ทำให้ยางประเภทนี้นั้นเหมาะกับรถกระบะเป็นส่วนใหญ่และคนที่อาจจะต้องขับรถออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ ด้วย เนื่องจากยางประเภทนี้จะมีการยึดเกาะถนนได้ดีกว่า แต่ก็เสียงดังกว่าเช่นกัน
ลักษณะของยางรถยนต์ ดอกยาง มีขนาดใหญ่และหนา ตัวร่องยางจะมีความห่างจากกันเล็กน้อย เน้นให้ดอกยางมีการสัมผัสกับพื้นถนนได้มาก และดอกยางสามารถตะกุยดินได้ ใช้งานสำหรับ รถกระบะแบบ 4×4 และ 4×2 ใช้งานได้ดีทั้งบนถนนทั่วไปและสามารถนำเอาไปใช้ลุยได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกับถนนที่ไม่ได้ทุรกันดารมากนัก ซึ่งยางประเภทนี้เมื่อใช้บนถนนทางเรียบจะมีเสียงของยางมากกว่าแบบแรกด้วย
3. MT – Mud Terrain
คุณสมบัติ 15% Road & 85% Off-Road
มาต่อกันที่ยางรถยนต์ประเภทสุดท้ายนั่นก็คือ Mud Terrain หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า MT ซึ่งยางประเภทนี้เป็นยางรถยนต์สำหรับขาลุยโดยเฉพาะ เน้นสายออฟโรดเป็นพิเศษ โดยจะเน้นโครงสร้างยางที่แข็งแรงเพื่อให้รองรับกับการใช้งานหนัก ๆ ได้ จุดเด่นของยางจะมีดอกยางที่หนา, ใหญ่ ตัวร่องยางลึก และห่างกันมากที่สุด เพื่อนเน้นเอาไว้ใช้งานสำหรับการตะกุยดินและสลัดดินออกจากตัวยางโดยเฉพาะ สามารถนำเข้าไปลุยได้กับเส้นทางทุรกันดารได้ เช่นทางโคลน, ถนนในป่า เป็นต้น ซึ่งยางประเภทนี้ก็ไม่เหมาะกับการใช้บนถนนทั่วไป เพราะเนื่องจากเมื่อวิ่งบนทางเรียบแล้วจะทำให้เกิดเสียงดังมาก อีกทั้งยังทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าแบบอื่นด้วย ที่สำคัญยังไม่เกาะถนนหากขับรถด้วยความเร็ว เนื่องจากตัวดอกยางไม่ได้ลักษณะที่ถูกออกแบบให้มีพื้นสัมผัสบนถนนที่มากพอ และยางประเภทนี้ก็ยังมีราคาที่สูงจึงทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานกับรถยนต์ทั่วไป
ลักษณะของยางรถยนต์ ดอกยาง เป็นบั้งลึก หนาใหญ่ ร่องยางลึกและห่างกันมากที่สุด เอาไว้ตะกุยดินและสลัดดินออกจากตัวยางโดยเฉพาะ สามารถนำไปลุยได้กับสภาพถนนหินดินโคลน ถนนขรุขระ ปีนป่าย ไม่เหมาะกับการใช้งานบนถนนทั่วไป เพราะยางมีน้ำหนักมาก มีเสียงดัง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ไม่เกาะถนนเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว ใช้งานสำหรับ รถยนต์ 4X4 หรือรถสำหรับลุยทางออฟโรดโดยเฉพาะ
สรุปประเภทยางรถยนต์
แน่นอนว่าการเลือกประเภทยางรถยนต์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่อันที่จริงแล้วการเลือกยางรถยนต์มีผลอย่างมากต่อการขับขี่และความสะดวกสบาย ซึ่งถ้าทำความเข้าใจเรื่องยางแต่ละประเภทแล้ว ก็จะยิ่งทำให้คุณสามารถเลือกยางรถยนต์ได้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่มากยิ่งขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญหากใช้งานยางรถยนต์ไปนาน ๆ แล้วก็อย่าลืมหมั่นตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์เป็นประจำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยนะคะ
อ่านบทความต่อ:
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถ หรือ ขายรถ แล้วล่ะก็… ที่ Carsome เสนอราคาให้คุณได้ดีที่สุด! เรามีขั้นตอนการชำระเงินที่รวดเร็ว และไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใด ๆ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!