ควรจะเลือกซื้อรถมือสองที่อายุรถเท่าไรดี ถึงจะคุ้มค่าที่สุด
รู้หรือไม่ว่าเวลาเราจะซื้อรถมือสองสักคัน ควรจะเลือกรถมือสองอายุเท่าไหร่ ถึงจะคุ้มค่าที่สุด ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนมาหาความรู้ในเรื่องนี้กัน พร้อมทั้งเปรียบเทียบช่วงอายุของรถมือสอง ว่าอายุรถมือสองแต่ละปีมีข้อดีและข้อเสียตรงไหนบ้าง
แน่นอนว่าการเลือกซื้อรถยนต์มือสองมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นปัจจัยในการเลือก เช่น มีการกรอเลขไมล์หรือไม่ และแน่นอนว่าเรื่องของราคาและการตรวจสภาพรถมือสองก็มาเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อรถมือสอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เป็นอันขาดนั่นก็คืออายุการใช้งานของรถมือสองที่ขาย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญในการเลือกซื้อเลยก็ว่าได้
อายุการใช้งานของรถสำคัญไหม ในการเลือกซื้อรถมือสอง
ต้องบอกเลยว่าอายุการใช้งานของรถนั้นสำคัญอย่างมากในการเลือกซื้อรถมือสองสักคันมาใช้ เพราะว่ารายละเอียดอายุการใช้งานนี่แหละจะมีผลกระทบต่อหลายๆ ด้านและหลายๆ ส่วนของรถ
ยกตัวอย่างเช่น
- ในเรื่องของระบบเครื่องยนต์และเกียร์: เนื่องจากว่าหากรถที่มีอายุการใช้งานเยอะแล้วชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์และเกียร์อาจจะมีการสึกหรอตามการใช้งาน หรือเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนเหล่านี้ ทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาทางเทคนิคมากขึ้น
- ช่วงล่างและระบบเบรก: ระบบช่วงล่างและเบรกจะมีการสึกหรอตามการใช้งาน อาจทำให้ต้องมีการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนบ่อยขึ้นเมื่อรถมีอายุมากขึ้น
- ความน่าเชื่อถือ: รถที่มีอายุน้อยมักจะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า เนื่องจากชิ้นส่วนยังไม่เสื่อมสภาพและมีโอกาสเกิดปัญหาน้อยกว่า
เปรียบเทียบ รถมือสองควรซื้อ ไม่เกินกี่ปี
รถมือสองอายุใช้งานไม่เกิน 3 ปี ดีไหม
ต้องบอกเลยว่ารถมือสองใช้งานไม่เกิน 3 ปี อาจจะอยู่ที่ 1-2 ปีเท่านั้น จะมีสภาพที่สมบูรณ์เทียบเท่ากับรถมือหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคันก็ตาม แต่รถมือสองอายุใช้งานไม่เกิน 3 ปีส่วนใหญ่แล้วก็จะยังคงมีสภาพที่ดีอยู่ ถึงแม้จะเคยเกิดอุบัติเหตุแต่ก็เป็นเพียงอุบัติเหตุที่เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ไม่ถึงกับยับเยิน
และที่สำคัญยังเป็นรถรุ่นใหม่ โฉมล่าสุดก็ได้ รถมือสองที่ใช้งานมาไม่เกิน 1-3 ปี โดยปกติแล้วราคาจะถูกกว่าที่อยู่ในโชว์รูมประมาณ 20-30% เลยก็เป็นได้
ข้อดีของรถมือสองใช้งานไม่เกิน 3 ปี
- เหมือนได้รถป้ายแดงมือหนึ่งในราคาที่ถูกกว่า และหมดปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุงไปได้เลยหากเจ้าของเดิมนั้นใช้รถน้อย และที่สำคัญยังคงอยู่ในประกันอย่างแน่นอน
ข้อเสียของรถมือสองใช้งานไม่เกิน 3 ปี
- หากเป็นรถตลาดยอดนิยมก็จะทำให้ราคาของมือสองนั้นตกลงไม่มาก ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ที่มีงบน้อย
รถมือสองอายุ 4-7 ปี น่าซื้อไหม
รถมือสองที่มีอายุ 4-7 ปีเป็นช่วงที่ราคาลดลงมากที่สุดจากราคาป้ายแดง ทำให้เป็นช่วงที่คุ้มค่ามากที่สุด เนื่องจากมีการลดราคาที่มากแต่สภาพรถยังคงดีอยู่ หากได้รับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนดเป็นประจำ ซึ่งราคาลดของรถที่ใช้งานประมาณนี้จะอยู่ที่ประมาณ 40-50% เลยก็เป็นได้ ที่สำคัญมีให้เลือกในตลาดเยอะ
แต่จะขอแนะนำเพิ่มเติมว่าหากจะตัดสินใจซื้อรถที่มีอายุการใช้งานประมาณเท่านั้น ควรขอประวัติ Book Service เอาไว้ด้วยหากเจ้าของเดิมนั้นเข้าศูนย์ตลอด หรือหากเป็นอู่นอกก็ควรที่จะขอหลักฐานการตรวจเช็กสภาพรถอยู่เป็นประจำ เพราะแน่นอนว่าอายุรถประมาณนี้อาจจะหมดประกันจากศูนย์แล้วฉะนั้นควรตรวจสอบให้ละเอียด
ข้อดีของรถมือสอง 4-7 ปี
- สามารถหารถช่วงอายุนี้ที่เจ้าของดูแลเป็นอย่างดีได้ไม่ยากเลย
- ในตลาดรถมือสองมีรถที่อายุประมาณเท่านี้เยอะและสภาพดี
- ได้ราคารถที่ถูกลงเยอะ แต่ยังคงสภาพดีอยู่
ข้อเสียของรถมือสองใช้งาน 4-7 ปี
- รถถือว่าผ่านการใช้งานมาพอสมควร
- หากเจอเจ้าของเก่าที่ไม่ค่อยดูแลรถหรือดูแลไม่ดี ก็อาจจะทำให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถได้ เช่น เรื่องของเหลวในรถอย่างการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
รถมือสองอายุใช้งาน 8-10 ปีขึ้นไป
รถมือสองที่มีอายุ 8 ปีขึ้นไปมักจะมีราคาในตลาดที่ถูกที่สุดซึ่งราคาจากมือหนึ่งจะลดลงมาประมาณ 60-70% เลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าด้วยอายุการใช้งานมาอย่างยาวนานก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงขึ้นมาก หากมีปัญหาที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของรถ และแน่นอนหากมีปัญหาแล้วก็ต้องมาลุ้นอีกว่าจะหาอะไหล่ได้ไหม เพราะเนื่องด้วยรถมีอายุที่นานแล้วจึงอาจทำให้อะไหล่บางชิ้นส่วนนั้นหายาก หรือเลิกผลิตไปแล้ว
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่ารถถูกใช้งานมานานก็อาจจะทำให้ตัวถังนั้นมีสีที่แตกต่างไปจากมือหนึ่งเมื่อตอนที่ออกมาใหม่ๆ เป็นอย่างมาก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วทางเต็นท์รถมือสองหรือทางผู้ขายจะเก็บสีมาให้เรียบร้อยแล้วก่อนขาย แต่หากเจ้าของเดิมหรือเต็นท์รถไม่มีการเก็บสีมาให้ ก็บอกเลยว่าเตรียมตัวเสียเงินทำสีรถใหม่ได้เลย
ข้อดีของรถมือสอง 8-10 ขึ้นไป
- ราคามือสองถูกลงอยากมาก
- หากเจอเจ้าของที่เป็นคนรักรถ ดูแลรถอย่างดีก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ใช้รถได้อีกยาวๆ
ข้อเสียของรถมือสองใช้งาน 8-10 ปี
- ต้องเตรียมค่าซ่อมบำรุงไว้มากพอสมควรหากเจอรถที่สภาพไม่ดี
- รถจะเริ่มมีอาการ ปัญหาต่างๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน
- ชิ้นส่วนอะไหล่บางชิ้นอาจจะหายากหรือเลิกผลิตไปแล้ว
- รถที่มาอายุ 10 ปี จะต้องได้รับการดูแลรักษามากเป็นพิเศษ เพื่อให้รถพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
How to เลือกรถมือสองที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
การมองหารถยนต์มือสองสักคัน แน่นอนว่าหลายๆ คนจะมองที่อายุการใช้งานและความคุ้มค่าเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเราควรมองหาแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ อย่างที่ Carsome มีตัวเลือกรถยนต์มากมายที่ผ่านการรับรองคุณภาพให้เหมือนใหม่มาให้เลือกได้อย่างหลากหลายและเข้ากับสไตล์เรามากที่สุด ซึ่งใครที่กำลังมองหารถยนต์มือสองสภาพดีผ่านการรับรองอยู่ ก็สามารถเลือกรถมือสองที่ Carsome ได้เลย งั้นมาดูกันดีกว่าว่ารถมือสองแบบไหนเหมาะสมกับเรามากที่สุด
1.ประเมินความต้องการของตัวเอง
อันดับแรกคุณต้องถามตัวเองก่อนว่า ต้องการรถยนต์ไปเพื่อใช้งานแบบไหนหรือเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันเราหรือไม่ อย่างเช่น บ้านไหนที่เป็นครอบครัวเล็กๆ ก็อาจจะเป็นรถ eco car ทั่วๆไป หรือเป็นครอบครัวใหญ่และสายเที่ยว ก็เป็นรถ SUV, PPV ไปเลย หรือหากบ้านไหนที่เป็นสายทำกินมีการขนของเยอะซะส่วนใหญ่ ก็เลือกเป็นรถกระบะ
2. กำหนดงบประมาณ
เมื่อทราบความต้องการของตัวเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดงบประมาณ คุณควรคำนึงถึงทั้งราคาตัวรถ ค่าใช้จ่ายในการผ่อน ค่าประกัน ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา และภาษีต่างๆ
3. เลือกรูปแบบรถที่เหมาะสม
ในปัจจุบันนั้นรถยนต์มีหลากหลายประเภท ให้คุณเลือกตามความต้องการใช้งาน เราก็มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละแบบนั้นเหมาะสมกับการใช้งานแบบไหน
- รถยนต์ซีดานทั่วไป มีที่นั่ง 4-5 ที่นั่งหากเป็นครอบครัวขนาดเล็กก็สามารถนั่งได้อย่างสบายๆ เลยซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้ชีวิตเดินทางในเมืองอยู่เป็นประจำ แต่ก็ยังสามารถขับทางไกลได้เช่นกันหากต้องการที่จะท่องเที่ยวต่างจังหวัด
- รถยนต์ SUV และ PPV รถยนต์ประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์ซีดานทั่วไป เพราะเนื่องด้วยภายในของห้องโดยสารนั้นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เกิน 7 คน และรถทั้ง 2 ประเภทนี้ยังมีเหมาะสำหรับการเดินทางไกลอีกด้วย บ้านไหนที่ชื่นชอบการเที่ยวต่างจังหวัด แคมป์ปิ้ง บอกเลยว่า SUV และ PPV นี้เหมาะที่สุด
- รถกระบะ แน่นอนว่าในประเทศไทยนั้นรถกระบะถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะบรรทุกของได้เยอะ ซึ่งผู้ทำการเกษตรหรือธุรกิจที่จำเป็นต้องขนของเยอะ รถกระบะถือว่าตอบโจทย์อย่างมากเลยทีเดียว และยังเหมาะสำหรับการเดินทางไกลอีกด้วย ทำให้หลายคนเลือกซื้อรถกระบะมาใช้ แต่หากใครที่เป็นสายแคมป์ปิ้งก็สามารถใช้รถกระบะได้เช่นกัน เพราะถือว่าเป็นรถ ลุย off-road ได้ และทนทานอย่างมาก
- รถยนต์ไฟฟ้า EV สำหรับใครที่ต้องการความเงียบขณะขับรถ รถไฟฟ้า EV ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน และในปัจจุบันรถ EV ก็มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้อย่างเหมาะสมของแต่ละคนด้วยเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม:
- ซื้อรถมือสองด้วยเงินสด ได้เล่มเลยไหม?
- วิธีดูรถมือสอง รวมวิธีเช็ครถมือสองจากผู้เชี่ยวชาญ
- รวมเอกสารซื้อรถมือสองและค่าใช้จ่าย
หากกำลังสนใจหรือต้องการทดลองขับรถอีโคคาร์สวยๆ สภาพนางฟ้า หรือ รถมือสองรับประกันคุณภาพอื่นๆ สามารถดูรถทั้งหมดของ CARSOME ได้ที่ 👉 www.carsome.co.th/buy-car 👈
หรือติดต่อ CARSOME ได้ที่ช่องทางไลน์ผ่าน 💬 LINE: @CARSOMEOfficial