รถระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD 4WD คืออะไร?

ระบบขับเคลื่อน-4-ล้อ-คืออะไร

รถระบบขับเคลื่อน 4 ล้อกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันมากขึ้น เนื่องจากเป็นระบบขับเคลื่อนที่ทรงประสิทธิภาพในการขับขี่และเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็มีสมรรถนะที่แรง ขับได้ทุกสภาพท้องถนน ในวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อกันให้มากขึ้น อีกทั้งในบทความยังมีลิสต์รถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อที่น่าสนใจมาแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่มองหารถคันใหม่อีกด้วยค่ะ

ซื้อรถยนต์มือสองกับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกัน 1 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน
นึกถึงรถยนต์มือสองต้อง Carsome.co.th

สารบัญ

รถระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ระบบขับ 4 ล้อคืออะไร? AWD และ 4WD ต่างกันยังไง? ใช้งานยังไง?

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนของรถยนต์สองเพลาที่สามารถให้แรงบิดกับล้อทุกล้อพร้อมกันได้ และยังเป็นระบบที่มีสมรรถนะในการขับเคลื่อนบนถนนที่ขรุขระได้ดี ทั้งนี้เป็นเพราะล้อทั้ง 4 จะช่วยกันสร้างแรงขับไปข้างหน้า ทำให้รถยกตัวขึ้นในแนวดิ่ง ซึ่งก็จะช่วยให้สามารถแล่นไปบนพื้นที่ที่มีระดับต่างกันได้ เมื่อล้อหน้าทั้งสองพบสิ่งกีดขวาง ล้อด้านหลังจะทำหน้าที่ช่วยผลักดันให้ล้อด้านหน้าข้ามสิ่งกีดขวางนั้นได้ หรือถ้าล้อด้านหลังตกหลุมโคลน ล้อด้านหน้าจะช่วยดึงให้ล้อด้านหลังขึ้นได้เช่นกัน แต่รถระบบขับเคลื่อน 4 ล้อบางรุ่นก็ได้ออกแบบเพื่อนำมาใช้ในสภาพพื้นถนนที่ขรุขระ ดังนั้น ในการใช้รถจึงต้องคำนึงถึงสภาพของรถที่ออกแบบไว้ด้วย

ซึ่งในปัจจุบันกระบะขับ 4 ล้อนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ระบบ 4WD และระบบ AWD

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD)

4WD

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ให้ความเสถียรได้สูงและมักนิยมใช้ในรถ SUV ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นระบบที่ให้เสถียรภาพในการขับออฟโรดได้ดีที่สุด  โดยระบบนี้ยังสามารถแบ่งประเภทการทำงานได้ 3 แบบ คือ

1. แบบพาร์ทไทม์ (Part Time)

ระบบที่ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ในกระบะ PPV, SUV หรือรถที่เป็นรุ่นท็อป โดยผู้ขับยังสามารถเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อน 2 ล้อ (4×2) เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อได้ (4×4) ตามสภาพถนน แต่ระบบขับสี่จะเพิ่มอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงขึ้น จากการส่งกำลังกระจายไปทั้ง 4 ล้อ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อประเภทนี้ ผู้ขับขี่เลือกเปลี่ยนโหมดการใช้งานขณะขับขี่ได้ตามใจชอบ รวมถึงการล็อคระหว่างเพลาหน้าและหลัง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถยนต์ได้ง่ายขึ้น เมื่อเจอถนนลื่น และถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสภาพถนน Off-Road (ออฟโรด) เกือบทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-time บนถนนแห้ง หรือ ถนนเรียบ อาจไม่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเท่าที่ควร

2. แบบฟูลไทม์ (Full Time)

เป็นรถที่ 4WD มาแต่กำเนิด ไม่สามารถเปลี่ยนระบบส่งกำลังได้ เพราะต้องการสมรรถนะการขับที่ดี แต่ก็มีข้อเสียอย่างอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่สูง โดยมีชุดกระจายกำลังทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยแบ่งถ่ายกำลังขับเคลื่อนให้สมดุลกันระหว่างเพลาล้อหน้ากับเพลาล้อหลังเมื่อจำเป็น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบตลอดเวลานี้ ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับสมรรถนะการควบคุมรถยนต์ที่ดีเยี่ยมในทุกๆ สภาพถนน ไม่ว่าจะถนนนั้นจะแห้งหรือลื่นไถล อีกทั้งผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เมื่อเปิดระบบนี้ขึ้นมา

3. แบบเรียลไทม์ (Real Time)

เป็นระบบที่สามารถสามารถเปิด-ปิดระบบได้อย่างเดียว เลือกโหมดแต่แรกไม่ได้ โดยปรกติแล้วรถจะขับเคลื่อน 2 ล้อเป็นหลัก แต่เมื่อใช้ลุยหรือเจอกรณีล้อหมุนฟรีผิดปรกติที่ตรวจโดยเซ็นเซอร์ที่ล้อ ก็จะถ่ายแรงบิดไปอีกชุดล้อ (หากขับหน้าก็ถ่ายแรงบิดไปล้อหลัง, ขับหลังก็ถ่ายแรงบิดไปล้อหน้า)

 

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา (AWD)

AWD

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา หรือเรียกอีกอย่างว่า All wheel drive (AWD) ถือว่าเป็นระบบที่ให้แรงเบรกที่ดีที่สุดในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็น หิมะ โคลน ฝน ทราย และพื้นถนนที่ขรุขระ ซึ่งหลักการทำงานของรถ AWD ก็คือการที่เครื่องยนต์สามารถส่งกำลังไปยังล้อซึ่งไม่ได้ใช้ขับเคลื่อนเป็นหลัก หรือสามารถอธิบายง่าย ๆ ได้ว่ายานพาหนะ FWD ส่งกำลังไปทางด้านหลังเมื่อจำเป็น ในทำนองเดียวกันกับ AWD แต่อย่างไรก็ตาม AWD บางระบบนั้นก็มีความแตกต่างกับระบบอื่น

นึกถึงรถยนต์มือสองต้อง Carsome.co.th
CTA Carsome รถมือสอง

แนะนำรถกระบะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นไหนดี?

1. Toyota Hilux

Toyota Hilux ขับ 4 ล้อ

credit : https://www.toyota.co.th

Toyota Hilux เป็นที่ได้รับการยอมรับในเรื่องการขับเคลื่อน 4 ล้อที่โดดเด่นถูกใจผู้ใช้งาน ซึ่งในรถกระบะรุ่นนี้มีการใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร VN-Turbo มอบกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติให้เลือกใช้งาน จุดเด่นของรุุ่นนี้ก็คือ อะไหล่ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ มีขายทั่วไทย ตลอดจนช่างซ่อมก็ไม่จำเป็นต้องเฉพาะทางแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่ดีที่สุดและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งายมากที่สุด

2. Isuzu D-max

Isuzu D-max ขับ 4 ล้อ

credit : https://www.isuzu-tis.com

สำหรับ Isuzu D-max  มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร พร้อมด้วย Turbocharger VGS และ Intercooler มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติให้เลือกใช้งาน นอกจากจุดเด่นของรุ่นนี้จะสามารถหาซื้ออะไหล่ได้ง่ายแล้ว ช่างก็สามารถซ่อมได้ง่ายเช่นเดียวกับ Toyota และสิ่งหนึ่งที่พิเศษกว่าของ Isuzu D-max ก็คือ ได้เครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าอีกทั้งยังประหยัดน้ำมันด้วย

3. Nissan Navara

Nissan Navara ขับเคลื่อน 4 ล้อ

credit: https://www.nissan.co.th

Nissan Navara มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร เทอร์โบ VGS มอบกำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งเครื่องยนต์รองรับน้ำมันดีเซลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น B7, B10 และ B20 มีความโดดเด่นด้วยระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า เทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะแบบครบเครื่อง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยได้สูงและเหมาะกับการขับขี่ทั้งบนถนนปกติและเส้นทางออฟโรด

4. Ford Ranger Wildtrak

Ford Ranger Wildtrak ขับเคลื่อน 4 ล้อ

credit : https://www.ford.co.th

สำหรับ Concept ของ Ford รุ่นนี้มีภาพลักษณ์ที่สื่อถึง พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เหมาะกับเป็นรถออฟโรดขาลุยที่ชื่นชอบการขับในระยะทางยาว ๆ เนื่องจากรุ่นนี้มีการปรับระบบส่งกำลังใหม่ที่สามารถขับได้นานถึง 150,000 กม. รูปลักษณ์ด้านหน้ามีการออกแบบดีไซน์ใหม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูตกแต่งตะแกรงสีดำเงาเล่นสีทอดยาวจรดกันชน พร้อมแต่งแถบสีส้มให้ดูทันสมัยขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีอุปกรณ์อเนกประสงค์พร้อมในรถยนต์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับทางไกลได้อย่างปลอดภัยด้วย

5. Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi Pajero Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ

credit: https://www.mitsubishi-motors.co.th

รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่างมิตซูบิชิก็เป็นอีกรุ่นยอดฮิตที่มักจะเห็นบ่อย ๆ โดยรุ่นนี้จะแตกต่างตรงที่ห้องโดยสารมีความกว้างพิเศษ นั่งสบายไม่อึดอัด และยังมีระบบการขับขี่ที่เหนือชั้นสามารถขับผ่านได้บนทุกสภาพถนน ครบครันด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น เช่น โหมด 2H (2WD High-Range), โหมด 4H (4WD High-Range) ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control, โหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง และ โหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมดออฟโรด ได้แก่ Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock รวมทั้งระบบล็อกเฟืองท้ายเพื่อมอบสมรรถนะสูงสุดบนเส้นทางออฟโรด

อ่านบทความต่อ:

10-รถกระบะ 4 ประตู ที่น่าสนใจ-ในปี-2022

แอบส่อง! Tesla Model 3 2022 รถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดในโลก พร้อมราคาในไทย

หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถ หรือ ขายรถ แล้วล่ะก็… ที่ Carsome เสนอราคาให้คุณได้ดีที่สุด! เรามีขั้นตอนการชำระเงินที่รวดเร็ว และไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใด ๆ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!CTA Carsome ซื้อ ขาย รถยนต์